ศัลยกรรมเพิ่มขนาด / ศัลยกรรมเลาะสารเหลว แก้ไขอวัยวะเพศผิดรูป
การผ่าตัดขยายขนาดอวัยวะเพศชาย (penile enlargement surgery)
ศัลยกรรมเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย ปลอดภัย รูปทรงสวยงาม ใช้งานได้ปกติ
การศัลยกรรมเป็นการผ่าตัดเพื่อพยายามเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศชาย ทั้งในแง่ของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาว ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธี แต่ละวิธี มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน การทำหัตถการ แต่ละอย่าง นอกจากต้องคำนึงถึงผลสำเร็จของการผ่าตัดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยและผลแทรกซ้อนที่ตามมาด้วย
– องคชาตหรืออวัยวะเพศชายที่ยื่นยาวออกมาจากร่างกาย (penis) ภายในเป็นกล้ามเนื้อซึ่งมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ซึ่งจะมีท่อปัสสาวะอยู่โดยตลอดและมีช่องเล็กๆ
– Corpus cavernosum Corpus spongesum เปิดอยู่ที่ตอนปลาย โดยท่อนี้จะเป็นทางผ่านของทั้งน้ำปัสสาวะUrethaและท่อน้ำอสุจิ
– Vasdeferens ส่วนขององคชาติสามารถยืดหดและขยายตัวตั้งขึ้นได้เอง
– Lacunar space จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามการเจริญเติบโตของร่างกาย
ส่วนขององคชาติสามารถยืดหดและขยายตัวตั้งขึ้นได้เอง Lacunar space จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามการเจริญเติบโตของร่างกาย ส่วนหัวขององคชาต Gland of penis โดยเฉพาะตอนปลาย เป็นส่วนที่ไวต่อความรู้สึกมากกว่าส่วนของหนังหุ้มปลาย Sensivity เนื่องจากมีเส้นประสาทและเส้นโลหิตมาหล่อเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก
การขยายขนาดอวัยวะเพศชาย
1. การฉีดสารเข้าอวัยวะเพศ (substance injection) : เป็นการฉีดสารบางอย่างเพื่อขยายขนาด อาจจะเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้น หรือ สารที่เป็นของผู้ป่วยเอง เช่น
-
- สารซิลิโคน (silicon)
- สารฟิลเลอร์(filler)
- ไขมันของผู้ป่วย
- สารอื่นๆ เช่น น้ำมันมะกอก,mineral oil,สารขี้ผึ้ง (ไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์)
แม้ว่าการฉีดอวัยวะเพศด้วยสาร จะมีราคาถูก รวดเร็ว แต่ก็ มีข้อเสียที่สำคัญ คือ ไม่สามารถคงรูปได้นานมักจะยุบหายไปตามระยะเวลา บางครั้งเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นหนองตามมา แม้กระทั้งเกิดอวัยวะเพศผิดรูปก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้น วิธีนี้ จึงไม่เป็นที่นิยม
2. การผ่าตัด (penile augmentation) : เป็นการผ่าตัดโดยใช้เนื้อเยื่อเข้าไปเสริมอวัยวะเพศ โดยอาจจะใช้เป็น เนื้อเยื่อ ของผู้ป่วย หรือ ใช้วัสดุสังเคราะห์ ขึ้นมา รวมกับการตกแต่งอวัยวะเพศรวมด้วย เช่น การตัดเนื้อเยื่อบริเวณ หัวหน่าว ออก(suprapubic lipectomy) หรือ ตัดเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยึดอวัยวะเพศออก(suspensory ligament release) วิธีการนี้มีความยุ่งยากและซับซ้อนกว่า ในแง่เทคนิคผ่าตัดเมื่อเทียบ กับการฉีดสารเข้าอวัยวะเพศ ซึ่งผลสำเร็จ และ ข้อแทรกซ้อนก็จะ น้อยกว่าด้วย แบ่งการผ่าตัด คร่าวๆตามเนื้อเยื่อที่ใช้ ดังนี้
2.1 การใช้เนื้อเยื่อผู้ป่วย (autograft) เช่น เนื้อเยื่อไขมัน (fat graft),ชั้นใต้ผิวหนังถุงอัณฑะ(scrotal tissue) วิธีการนี้ มีโอกาสที่เนื้อเยื่อจะยุบหายไปสูง (reabsorb) ในกรณี ใช้เนื้อเยื่อไขมัน และ ปริมาณเนื้อเยื่อไม่เพียงพอสำหรับความต้องการ กรณีใช้เนื้อเยื่อถึงอัณฑะ
2.2 การใช้ วัสดุสังเคราะห์ (synthetic/artificial graft) เช่น silicon , artificial dermal graft โดยมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน
– silicon : ข้อดีคือ ราคาถูก แต่มีโอกาสเกิดปัญหาเรื่องการเข้าไม่ได้กับเนื้อเยื่อของผู้ป่วยและดูไม่เป็นธรรมชาติ
– artificial dermal graft : ข้อดีคือ เข้าได้ดีกับเนื้อเยื่อผู้ป่วยกว่า silicon สามารถเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศได้ตามความหนาของเนื้อเยื่อเทียมที่นำมาใส่ หลังทำเมื่อติดตามไประยะเวลานาน พบว่า ยังคงสภาพขนาดได้ ข้อเสีย คือ ราคาสูง ตามขนาดของ เนื้อเยื่อเทียมที่นำมาใช้
ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีใดที่ยอมรับว่าดีที่สุด ขึ้นกับการพูดคุย กันระหว่างผู้ป่วยและศัลยแพทย์ โดยคำนึงถึง หลักความเป็นจริงของ กายวิภาคผู้ป่วย เทคนิคการผ่าตัด ข้อจำกัดของแต่ละวิธี ความปลอดภัย รวมทั้ง ข้อดี ข้อเสีย และ ความพึงพอใจของผู้ป่วย ด้วย
ข้อสังเกต : ในแง่ของการเพิ่ม ความยาวอวัยวะเพศผู้ป่วยนั้น อาจจะไม่ได้ ตามที่ผู้ป่วยคาดหวัง เนื่องจาก ต้องคิดถึงหลักความเป็นจริงที่ว่า ความยาวของอวัยวะเพศนั้น ถูกกำหนดด้วยลักษณะกรรมพันธุ์ ซึ่งมีมาตั้งแต่กำเนิดอยู่ แล้ว ลักษณะกายวิภาคของมนุษย์ที่มี เนื้อเยื่อเกี่ยวพันยึดอวัยวะเพศ (suspensory ligament)ที่ยึดรั้งอวัยวะเพศให้อยู่กับที่ เพื่อให้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปรกติ และ โดยธรรมชาติเนื้อเยื่อบริเวณหัวหน่าวของมนุษย์นั่น มีความหนาเนื่องจากชั้นไขมันใต้ผิวหนัง อยู่แล้ว ทำให้ ความยาวของอวัยวะเพศโดนบดบัง เพราะฉะนั้น โดยสรุปแล้ว ยังไม่มี วิธีใดที่ทำให้เพิ่มความยาวของอวัยวะเพศ ให้เห็นได้ชัดเจน แม้ กระทั้ง การตัดเนื้อเยื่อบริเวณ หัวหน่าว ออก(suprapubic lipectomy) หรือ การตัดเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยึดอวัยวะเพศออก(suspensory ligament release) อาจจะยาวออกมาแค่ประมาณ ½-1 นิ้ว และอาจจะส่งผลเสีย ได้เช่น ทำให้ลักษณะภายนอกบริเวณหัวหน่าว ผิดรูป หรือ ไม่สามารถมี เพศสัมพันธุ์ได้
ทีมแพทย์เข้าอบรมหลักสูตรศัลยกรรมที่ Proud urology clinic ประเทศเกาหลี
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย
- รับคำปรึกษาจากเเพทย์เพื่อการเตรียมตัว เเละทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการรักษา การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย
- แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา ประวัติการแพ้อาหาร หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย
- งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- เตรียมกางเกงหลวมๆ สำหรับใส่หลังผ่าตัด
การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง
- ฉีดสารแปลกปลอม เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย โดยฉีดกันเอง เช่น น้ำมันมะกอก ไขมัน หรือซิลิโคน โดยสิ่งเหล่านี้เป็นสารแปลกปลอมต่อร่างกาย ฉีดเข้าไปผิดหลัก จากการติดเชื้อ เน่า เปื่อย หรือการฉีดโดยใช้เข็มร่วมกัน อาจติดเชื้อโรค
- ใช้กระบอกสุญญากาศ เพื่อเพิ่มขนาดและเพิ่มความยาวอวัยวะเพศชาย ซึ่งกระบอกสุญญากาศเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ช่วยให้องคชาตแข็งตัว หากใช้ผิดวิธีอาจทำให้อวัยวะเพศขาดเลือดและใช้การไม่ได้อีก ก่อนใช้ในการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย ควรปรึกษาแพทย์ และใช้ตามกำหนดไม่เกินครั้งละ 30 นาที
- กินยาสมุนไพร ควรอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ที่สำคัญการซื้อใช้อาจเสียเงินเปล่าโดยไม่เกิดผลใดๆ ตามที่โฆษณา เนื่องจากยาสมุนไพรเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย อาจก่อให้เกิดอาการแพ้สำหรับผู้ใช้บางคนก็เป็นได้ โดยเฉพาะหากไม่ผ่านการรับรองคุณภาพความปลอดภัยจากอย. ยิ่งไม่ควรซื้อใช้โดดเด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ตัวผู้ใช้เอง หรือมีผลข้างเคียงต่อร่างกายภายหลังการใช้
บทความโดย : นายแพทย์เชฏฐา ฐานคร,M.D.
ผู้เชียวชาญด้านศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์